วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก น้ำสมุนไพรจีนปาซินซุ่ยและยาน้ำสมุนไพรจีนซินแปะฮ้อช่วยลดการเกิดมะเร็ง




โรคหนองในแท้
หนองในแท้ หรือ โรคโกโนเรีย (Gonorrhea) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (กามโรค) ที่พบได้มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการมักเป็นรุนแรงและชัดเจนจนผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาอาการจะดีขึ้นได้เองเพียงเล็กน้อย แต่ตัวโรคยังคงเป็นอยู่ และอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้

ในประเทศไทยมีรายงานจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในปี พ.ศ. 2551 พบว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคหนองในจำนวน 6,168 ราย หรือคิดเป็น 15.43% ของผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งหมด หรือคิดเป็น 9.76 ต่อประชากร 
สาเหตุของหนองใน
หนองในเกิดจากการติดเชื้อหนองในซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า “ไนซีเรีย โกโนเรียอี” (Neisseria gonorrhoeae) หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า “โกโนค็อกคัส” (Gonococcus ) ซึ่งสามารถตรวจพบได้ในน้ำอสุจิและสารน้ำในช่องคลอด จึงถ่ายทอดผ่านทางการมีเพศสัมพันธ์เป็นหลัก เชื้อแบคทีเรียชนิดนี้สามารถเจริญได้ดีในที่ชื้นและที่อบอุ่นของระบบอวัยวะสืบพันธุ์ตั้งแต่ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก ท่อปัสสาวะ (ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง) นอกจากนี้ยังสามารถเจริญในบริเวณอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น ทวารหนัก เยื่อบุตา ช่องปากคอ เป็นต้น

อาการของหนองใน
ฝ่ายชาย หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 2-10 วัน จะมีอาการแสบในลำกล้องเวลาถ่ายปัสสาวะ หรือถ่ายปัสสาวะขัด มีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ ในระยะแรกอาจจะแค่ไหลซึมเป็นมูกใส ๆ เล็กน้อยโดยไม่ใช่น้ำปัสสาวะหรือน้ำอสุจิแต่ในอีก 12 ชั่วโมงต่อมาจะกลายเป็นหนองสีเหลืองข้น และจะออกมากคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว ในบางรายอาจมีอาการปวดและบวมของถุงอัณฑะ หรือมีการอักเสบที่หนังหุ้มปลายองคชาต (พบได้น้อย) ร่วมด้วย (ประมาณ 10% ของฝ่ายชายที่ติดเชื้อหนองในอาจไม่มีอาการเหล่านี้แสดงออกมาเลยก็ได้ แต่ยังสามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้อยู่
หากติดเชื้อในลำคอ อาจทำให้เกิดอาการเจ็บคอ เป็นไข้ หากติดเชื้อในทวารหนัก อาจทำให้เกิดอาการปวดหน่วง คัน หรืออาจมีน้ำคล้ายหนองออกมา โดยเฉพาะในขณะขับถ่าย และหากติดเชื้อที่เยื่อบุตา อาจทำให้มีอาการเจ็บปวด ระคายเคือง และมีหนองไหล อย่างไรก็ตามการติดเชื้อในตำแหน่งใด ๆ ก็ตาม อาจไม่มีอาการแสดงออกมาเลยก็ได้ นอกจากอาการที่กล่าวมาแล้วยังอาจมีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบ (ไข่ดัน) บวมและเจ็บด้วย
กิจกรรมที่ทำให้เกิดการติดเชื้อหนองใน : มักติดมาจากมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยจากการสัมผัสเยื่อบุช่องคลอด ช่องปาก ทวารหนัก องคชาต โดยอาจมีหรือไม่มีการหลั่งน้ำอสุจิก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจติดได้จากมารดาสู่ทารกในระหว่างการคลอดจากการสัมผัสเชื้อโดยตรงได้อีกด้วย (เฉพาะในสตรี เชื้อสามารถแพร่จากช่องคลอดไปสู่ทวารหนักได้เองโดยไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก)
กิจกรรมที่ไม่ทำให้เกิดการติดเชื้อหนองใน : ได้แก่ การจับมือ, การกอด, การจูบ, การใช้แก้วน้ำ จาน ชามร่วมกัน, การใช้ห้องน้ำหรือผ้าเช็ดตัวร่วมกัน, การนั่งฝาโถส้วม, การใช้สระว่ายน้ำร่วมกัน (เชื้อหนองในไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ในสระว่ายน้ำหรือในโถส้วม ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่คนปกติทั่วไปจะติดเชื้อหนองไหนจากสระน้ำหรือโถส้วม) เป็นต้น ส่วนการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้มือหรือนิ้วช่วย ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่าสามารถทำให้เกิดการถ่ายทอดเชื้อได้
กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดโรคหนองใน : ได้แก่ กลุ่มวัยรุ่น, ผู้ติดยาเสพติด, ผู้ที่มีคู่นอนมากกว่า 1 คน, ผู้ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยในขณะมีเพศสัมพันธ์, ผู้ที่เคยเป็นโรคนี้มาแล้ว หรือเคยเป็นโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น โรคซิฟิลิส (Syphilis)
ระยะฟักตัวของโรค : หลักจากได้รับเชื้อมักจะแสดงอาการภายใน 2-10 วัน แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะแสดงอาการภายใน 5 วัน
ภาวะแทรกซ้อนของของโรคหนองใน
ฝ่ายชาย ถ้าไม่ได้รับการักษา อาจมีหนองไหลอยู่ประมาณ 3-4 เดือน และเชื้อหนองในอาจลุกลามเข้าไปยังบริเวณใกล้เคียง ทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบ ซึ่งอาจทำให้ท่อปัสสาวะตีบตันได้
อาจทำให้ต่อมลูกหมากอักเสบ หรือเป็นฝีที่ผนังของท่อปัสสาวะ
ในบางรายอาจทำให้เกิดการอักเสบของอัณฑะ (อัณฑะปวดบวม และเป็นหนอง) และท่อนำอสุจิ ซึ่งอาจทำให้มีบุตรได้ยากหรือกลายเป็นหมันได้
ฝ่ายหญิง เชื้อหนองในอาจลุกลามทำให้ต่อมบาร์โทลิน (Bartholine’s gland) ที่แคมใหญ่จนเกิดการอักเสบ หรือเป็นฝีบวมโต หรืออาจทำให้เยื่อบุมดลูกอักเสบ หรือปีกมดลูกอักเสบ ซึ่งถ้าเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง เมื่อหายแล้วก็อาจจะทำให้ท่อรังไข่ตีบตัน กลายเป็นหมัน หรือทำให้เกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ถ้าตั้งครรภ์
อาจทำให้เกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกราน (ช่องท้องน้อย) ทำให้มีอาการปวดท้อง มีไข้ อาจทำให้เกิดถุงหนองในช่องน้อยที่รักษาหายยาก แล้วอาจทำให้มีอาการปวดท้อง โดยเฉพาะในช่องท้องน้อยแบบเรื้อรัง
ทั้งสองเพศ เชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือดไปที่ข้อ (หนองในเข้าข้อ) จนทำให้เป็นโรคข้ออักเสบชนิดติดเชื้อเฉียบพลันจนมีอันตรายต่อชีวิตได้ ซึ่งภาวะนี้เป็นภาวะที่พบได้น้อยมาก โดยข้อที่พบได้บ่อย คือ ข้อเท้า ข้อเข่า และข้อมือ
ผู้ที่เป็นโรคหนองในจะติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ได้ง่ายกว่าคนที่ไม่เป็นหนองใน
นอกจากนี้ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่พบได้น้อยมาก เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ (Endocarditis) ซึ่งอาจทำให้ลิ้นหัวใจรั่ว และหัวใจวาย
การดูแลตัวเองของผู้เป็นโรคหนองใน
หากมีอาการปัสสาวะแสบขัด หรือมีอาการปวด หรือมีผื่นขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์แล้วรีบไปพบแพทย์ ถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคหนองในหลังได้รับการรักษาแล้ว เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำอีก ควรบอกให้คู่นอนมารับการรักษาด้วย และให้งดมีเพศสัมพันธ์ไปจนกว่าจะหายดีแล้วทั้งคู่
ผู้ที่เป็นโรคหนองในทุกคนจำเป็นต้องได้รับการรักษา ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่จะแสดงอาการหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนจากโรคหนองใน และบางรายก็มีอาการดีขึ้นเองก็ตาม แต่ไม่แนะนำให้เพิกเฉยไม่ไปรับการรักษา เพราะผู้ป่วยจะยังคงแพร่เชื้อไปยังคู่นอนได้อยู่ และยังรับเชื้อกลับเข้ามาได้อีก ซึ่งอาจทำให้พบภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เพิ่มขึ้นตามจำนวนครั้งที่ได้รับเชื้อเข้าไปจนเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้
ในระหว่างการรักษาหนองในห้ามมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลา 2-4 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อ (ในกรณีที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ จะต้องใช้ถุงยางอนามัยอย่างเคร่งครัด) และต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 เดือน เพราะแอลกอฮอล์หรือเหล้าจะทำให้หนองไหลมากขึ้น
ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องอาหารแสลงของโรคหนองใน เช่น หูฉลาม อาหารทะเล หน่อไม้ สาเก เป็นต้น ในทางการแพทย์ยังไม่มีการยืดยันที่แน่ชัด แต่ที่แน่นอนที่สุดก็คือ ต้องงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลา 1 เดือน เพราะหากไม่ปฏิบัติตามจะทำให้หนองไหลมากยิ่งขึ้น ส่วนอาหารอื่น ๆ ถ้ากินแล้วทำให้หนองไหลมากขึ้นหรือกำเริบใหม่ก็ควรจะงดอาหารนั้น ๆ ไปก่อน
วิธีป้องกันโรคหนองใน
เลือกมีคู่นอนเพียงคนเดียว และจะแน่นอนยิ่งขึ้นหากคู่นอนได้รับการตรวจแล้วว่าไม่มีการติดเชื้อใด ๆ
หลีกเลี่ยงการเที่ยวกลางคืนหรือการสำส่อนทางเพศ และถ้าจะหลับนอนกับคนอื่นหรือคนที่สงสัยว่าจะเป็นหนองใน ควรใช้ถุงยางอนามัยเสมอ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคนี้ได้เกือบ 100% (ส่วนโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่น ๆ อาจจะได้ผลไม่เต็มที่ และยังมีโอกาสติดเชื้อได้บ้าง)
หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเช็ดหน้าและผ้าเช็ดตัวร่วมกับผู้ติดเชื้อ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ควรดื่มน้ำก่อนร่วมเพศและถ่ายปัสสาวะทันทีหลังร่วมเพศ หรือฟอกล้างสบู่ทันทีหลังร่วมเพศ อาจช่วยลดการติดเชื้อลงได้บ้าง แต่ไม่ใช่ว่าจะได้ผลทุกราย
ยาน้ำสมุนไพรจีนซินแป๊ะฮ้อ และยาน้ำสมุนไพรจีนปาซินซุ่ย มีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง บำรุงหัวใจเลือดลมเสริมภูมิต้านทานโรคสร้างกล้ามเนื้อบรรเทาอาการหน้าซีดหอบอ่อนล้าไม่มีแรงขับปัสสาวะบรรเทาอาการมดลูกหย่อนท้องร่วงบวมน้ำไตอักเสบเบาหวาน ช่วยขับหนองใน ทำให้ระบบเลือดไหลเวียนได้อย่างเป็นปกติ ลดอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากโรคหนองใน ลดภาวะความเสื่อมของต่อมลูกหมาก ช่วยให้ระบบเลือดภายในต่อมลูกหมากทำงานได้ดีลดอัตราการเสี่ยงเป็นโรคหนองในแสบร้อนเพิ่มขึ้น ช่วยบรรเทาอาการอักเสบภายในต่อมลูกหมากยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรียอันเนื่องมาจากสภาวะซ่อมลูกหมากโตและเกิดสภาวะโรคหนองใน วิธีรับประทานยาน้ำสมุนไพรจีนซินแป๊ะฮ้อและยาน้ำสมุนไพรจีนปาซินซุ่ย รับประทานครั้งละ 1ช้อนโต๊ะ หลังอาหารเช้าและเย็น ติดต่อกันเป็นเวลา 1เดือน อาการต่างๆก็จะทุเลาลงและเป็นปกติ
ยาน้ำสมุนไพรจีนซินแป๊ะฮ้อและยาน้ำสมุนไพรจีนปาซินซุ่ย 
ยาแผนโบราณ เลขทะเบียนที่ G131/51 G463/51
ขนาด 700 หรือ 1,750 g
 ราคาขายปลีก ขวดละ 2,700 บาท 
ราคาสมาชิก ขวดละ 2,200 บาท
ค่าสมัครสมาชิก 150 บาท ตลอดชีพ
สนใจติดต่อ หมอกั้ง 
☎0884257764
☎0937644269
📮LINE ID:makee58









ป่วยเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก น้ำสมุนไพรจีนปาซินซุ่ยและยาน้ำสมุนไพรจีนซินแปะฮ้อช่วยลดการเกิดมะเร็ง








ท้องนอกมดลูกคืออะไร
โดยปกติแล้วคนเราเวลาตั้งครรภ์ก็จะตั้งครรภ์ในมดลูก แต่มีจำนวนไม่น้อยที่ไข่ที่ได้รับการผสมกับอสุจิแล้วไปฝังอยู่ที่ท่อนำไข่ บางคนไปฝังในรังไข่เลยก็มี หรือบางคนก็ในช่องท้อง แต่กรณีที่พบบ่อยที่สุดคือท้องในท่อนำไข่ การตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ ส่วนมากเด็กโตไปได้ระยะหนึ่งก็มักจะเสียชีวิต 

สาเหตุ : ท้องนอกมดลูกมักพบบ่อยๆ ในคนที่มีประวัติเคยมีปีกมดลูกอักเสบ เคยทำแท้งบ่อยๆ การขูดมดลูกอาจจะมีการอักเสบติดเชื้อ ทำให้ท่อนำไข่หรือมดลูกไม่เรียบ ไข่เดินทางไปสู่มดลูกได้ช้า การฝังตัวเกิดได้ไม่ดี จึงเกิดฝังตัวนอกมดลูก

การรักษา : ส่วนมากต้องผ่าตัดเพื่อเอาการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติออก บางคนก็จำเป็นต้องตัดท่อนำไข่ทิ้ง หรือตัดรังไข่ทิ้ง แล้วแต่กรณี 
การป้องกัน : การป้องกันอันตรายจากภาวะนี้ได้ดีที่สุดก็คือ การฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อหากพบภาวะนี้สามารถให้การรักษาได้ทันท่วงที ไม่เกิดอันตรายต่อคุณแม่ เพราะหากปล่อยไว้อาจเกิดท่อรังไข่ หรือรังไข่ฉีกขาดได้

สภาวะการตั้งครรภ์นอกมดลูก ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นในบริเวณท่อนำไข่ และส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในหญิงที่มีสภาพมดลูกที่ผิดปกติ หญิงที่ผ่านการตั้งครรภ์แล้วแท้งมาก่อนหรือในหญิงที่เคยมีประวัติการขูดมดลูกมาแล้ว จะมีสภาวะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นอกมดลูก เด็กเกิดออกมาจากการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่รอดได้ อันเนื่องมาจากความไม่สมบูรณ์ของครรภ์มารดาเป็นเหตุ ฉนั้นในทางป้องกันคือ 1 ผู้หญิงทุกคนควรหมั่นตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำทุกๆ 6เดือน
2 ให้หมั่นสังเกตุการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ระหว่างมีประจำเดือน ว่ามีสภาวะเลือดเป็นลิ่มหรือไม่
3 หมั่นฝึกทำอารมณ์และจิตใจให้อยู่ในสภาวะไม่เครียดจนเกินไป เพราะความเครียดจะทำให้ระบบฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติ ส่งผลไปยังมดลูก
4 ทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ครบหลักโภชนาการทั้ง 5หมู่ เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง 
ยาน้ำสมุนไพรจีน ปาซินซุ่ยและยาน้ำสมุนไพรจีนซินแป๊ะฮ้อมีสรรพคุณทางยาในการที่จะช่วยบำรุงระบบเลือดและฮอร์โมน รับประทานทุกวันทั้งเช้าและเย็น จะช่วยบำรุงระบบเลือดและฮอร์โมนทั้งร่างกายค่ะ🌹🌸🍀🌿 
ยาน้ำสมุนไพรจีนซินแป๊ะฮ้อ ขวดเล็กขนาด 175cc. ราคา 750 บาท ขวดใหญ่ขนาด 700cc. ราคา 2,700 บาท
ยาน้ำสมุนไพรจีนปาซินซุ่ย ขวดเล็กขนาด 175cc. ราคา 750 บาท ขวดใหญ่ขนาด 700cc. ราคา 2,700 บาท
👯 สนใจติดต่อ 0884257764 , 0937644269
http://line.me//ti/p/~makee58